อยากซื้อทุเรียนมาเก็บไว้ ทำยังไงดี? ทุเรียนเป็นราชาผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย ออกผลในช่วงเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคมของทุกปี อาจจะออกผลเร็วหรือช้ากว่าเล็กน้อยามสภาพอากาศ ซึ่งทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีราคาแพง เมื่อหมดฤดูแล้วจะหาซื้อได้ยาก หากมีขายก็จะราคาสูง ทำให้การรู้วิธีเก็บทุเรียน หรือทำทุเรียนฟรีซดราย เพิ่มความสะดวกให้กับคุณพ่อบ้านแม่บ้านที่อยากเก็บทุเรียนเอาไว้กินนาน ๆ โดยที่ทุเรียนไม่เสียรสชาติ เนื้อทุเรียนที่สามารถเก็บได้ ทุเรียนเวลาสุกเนื้อจะอ่อนนิ่ม ซึ่งทุเรียนส่วนใหญ่มักจะทานในระยะสุกพอดี คือ ช่วงที่เนื้อสีเหลืองนวล เหลืองส้ม หรือเหลืองเข้มตามแต่สายพันธุ์ เมื่อกดดูเนื้อมีความนิ่มแต่ไม่เละ แต่หากต้องการเก็บทุเรียน การเก็บทุเรียนเนื้อนิ่มอาจจะอยู่ได้ไม่นาน แนะนำให้เลือกเก็บทุเรียนระยะกรอบนอกนุ่มใน เนื้อแบบนี้เป็นเนื้อที่รู้จักกันดีของทุเรียนหมอนทอง กล่าวได้ว่าการจะเก็บทุเรียนไว้นานหลายเดือน ควรเลือกเก็บทุเรียนหมอนทองมากกว่าทุเรียนพันธุ์อื่น เพราะเนื้อเซตตัวสวยนาน และกลิ่นไม่ฉุนมาก วิธีการเก็บทุเรียนให้อยู่ได้นาน ๆ การเก็บทุเรียนให้อยู่ได้นาน ๆ มีเคล็ดลับอยู่ที่การเก็บให้แห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมีวิธีการเก็บทุเรียนให้เหมือนวันแรกที่ซื้อมามีดังนี้ การเก็บทุเรียนต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการแกะ โดยผู้แกะจะต้องแกะให้เนื้อสวย ไม่มีรอยบิ่นหรือขาดของเนื้อ ควรแกะตั้งแต่เนื้อยังกรอบนอกนุ่มใน เพื่อให้การเซตตัวของเนื้อยังคงดี ไม่นิ่มเละจนเกินไป ภาชนะที่ใช้ใส่ทุเรียนนี้ควรเป็นทับเปอร์แวร์ หรือกล่องที่มีฝาปิดมิดชิด ป้องกันความชื้นและไอน้ำเข้าไปจัวกับเนื้อทุเรียน ควรเลือกภาชนะที่ใหญ่เพียงพอจะใส่เนื้อทุเรียนได้โดยไม่แออัด ขั้นตอนนี้จะต้องมั่นใจว่าทุเรียนมีความแห้ง ตามปกติของผลไม้เมื่อโดนความเย็นจะมีการคายน้ำ จึงต้องมีการซับน้ำออกจากเนื้อทุเรียนให้หมด การห่อเนื้อทุเรียนนี้ให้ใช้กระดาษทิชชู่สำหรับซับน้ำมัน หรือกระดาษบางในการห่อทุเรียนให้มิดชิด หากต้องการเก็บทุเรียนไว้นานมาก ๆ อาจจะหุ้มด้วยพลาสติกอีกชั้นก็ได้… Continue reading วิธีเก็บทุเรียนให้อยู่ได้นาน รสชาติไม่เปลี่ยน ฟินได้นานหลายเดือน
Author: Tara
วิธีป้องกันผมร่วงช่วงหน้าร้อน เรื่องแสนง่ายที่ใคร ๆ ก็ทำได้
อากาศร้อนนอกจากจะทำให้ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ที่สำคัญยังเป็นปัญหาที่อาจทำให้เกิดโรคหน้าร้อน ทั้งยังสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีให้กับสภาพจิตใจอีกด้วย และคุณรู้หรือ! ว่าอากาศร้อนยังทำให้ผมร่วงได้อีกด้วย เพียงแค่สางผมเบา ๆ หรือใช้หวีแปรงผมเบา ๆ เท่านี้เส้นผมก็พร้อมที่จะหลุดร่วงออกมาอย่างไม่รีรอ ใครที่ไม่มีปัญหาผมร่วงก็มักเป็นในช่วงนี้ หรือใครที่มีปัญหาอยู่แล้วก็จะผมร่วงหนักมากกว่าเก่า อากาศร้อนทำไมผมถึงร่วงง่าย โดยสาเหตุที่ทำให้หน้าร้อนผมร่วง เป็นเพราะสถานการณ์โลกร้อนในปัจจุบันที่ทวีความรุนแรงของอุณหภูมิมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นส่งผลทให้ต่อมไขมันบนหนังศีรษะทำงานหนักขึ้น และขับออกมาภายนอกมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ความร้อนที่เกิดขึ้นยังส่งผลต่อสภาะของเส้นและหนังศีรษะ อีกทั้งคนที่มีปัญหาหนังศีรษะมัน หากไม่ได้รับความสะอาดอย่างทั่วถึง อาจทำให้ไขมันอุดตันรูขุมขนที่เป็นทางเดินของเส้นผม และไขมันส่วนเกินตกค้างจนเน่าเสียที่รูขุมขน ที่นอกจากจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราชั้นดีแล้ว อาจนำไปสู่ปัญหารังแคและทำให้ผมร่วงง่ายขึ้นอีกด้วย และแม้ว่าปัญหาผมร่วงจะเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน และมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้ได้มากมาย เช่น กรรมพันธุ์ โรคบางอย่าง และวิถีการใช้ชีวิต แต่อากาศร้อนจัด ๆ ก็เป็นตัวการเสริมให้ปัญหาเหล่านี้รุนแรงมากกว่าเดิมได้ แต่จากที่จะนั่งเครียดอยู่ลองลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาผมร่วงในหน้าร้อนให้ตรงจัดดีกว่า วันนี้เรามาบอกต่อวิธีป้องกันผมร่วงช่วงหน้าร้อนด้วยสูตรธรรมชาติให้กับทุกคน รับรองว่าไม่เกิดอากาศแพ้ ไร้ผลข้างเคียง และได้ผลลัพธ์ที่ดีแน่นอน วิธีป้องกันผมร่วงช่วงหน้าร้อน ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ได้ที่บ้าน หลีกเลี่ยงอากาศร้อนจัด ไม่ควรอยู่กลางแดดเป็นเวลา โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีปัญหาผมบางและหัวล้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะในแดดมีรังสียูวีหรือรังรีอัลตร้าไวโอเลต ที่ทำความอันตรายให้กับผิวหนังศีรษะ อาจไปถึงขั้นก่อมะเร็งในอนาคตเลยทีเดียว ที่สำคัญรังสีที่ว่ายังเป็นตัวการที่เข้าไปสร้างปัญหาให้กับเส้นผมในระยะยาวได้อีกด้วย ดังนั้นเลี่ยงได้เลี่ยง ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ… Continue reading วิธีป้องกันผมร่วงช่วงหน้าร้อน เรื่องแสนง่ายที่ใคร ๆ ก็ทำได้
ฮีทสโตรก ภัยร้ายหน้าร้อน ไม่ระวังอาจอันตรายถึงชีวิต
ฮีทสโตรกอันตราย ทำความเข้าใจไว้ก่อนสาย เชื่อเลยว่าทุกคนต่างรู้ดีว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน โดยเฉพาะเมื่อเข้าช่วงซัมเมอร์ด้วยแล้วเหมือนความร้อนระอุจะยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้จบ ซึ่งความร้อนนอกจากจะทำให้ผิวคล้ำเสีย ผิวกายเหนอะหนะ มีกลิ่นตัว และสร้างความหงุดหงิดให้กับคนได้แล้ว โรคหน้าร้อนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพึงระวัง ซึ่งนอกจากอันตรายจากการรับประทานอาหารแล้ว การที่ร่างกายได้รับความร้อนมากจนเกินไป หรือร่างกายระบายอากาศได้ไม่ดีก็เป็นอีกสิ่งที่ทุกคนต้องระวัง เพราะบางครั้งนั่นอาจไม่ได้สร้างแค่ความไม่สบายตัวเท่านั้น แต่อุณหภูมิที่สูงเกินไปยังทำให้คนหมดสติ หรือเรียกอีกอย่างว่าฮีทสโตรก (โรคลมแดด) ที่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันเวลา อาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้อีกด้วย ฮีทสโตรก (Heatstroke) คืออะไร? ฮีทสโตรกหรือโรคลมแดด คืออันตรายที่พบได้ในชีวิตประจำวัน แต่ส่วนใหญ่มักพบในช่วงหน้าร้อนมากกว่า เนื่องจากในช่วงหน้าร้อนจะมีสภาพอากาศที่ร้อนมากกว่าปกติ จนทำให้ความร้อนในร่างกาย (core temperature) สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส จนทำให้ผู้ป่วยบางรายไม่สามารถควบคุมความร้อนในร่างกายของตัวเองได้ อาการเบื้องต้นที่เกิดขึ้น ได้แก่ ปวดศีรษะ หน้ามืด เพ้อ ชัก เริ่มไม่รู้สึก หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวัด ช็อก เป็นลมหมดสติ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ให้มีอาการนาน ๆ หรือร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกได้มากกว่า 2 ชั่วโมง อาจส่งผลกระทบรุนแรงไปถึงหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ ที่หากไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างทันเวลาและถูกต้อง… Continue reading ฮีทสโตรก ภัยร้ายหน้าร้อน ไม่ระวังอาจอันตรายถึงชีวิต
โรคหน้าร้อนที่ต้องระวัง กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วอาจเสียใจ
โรคหน้าร้อนที่ต้องระวัง รู้ไว้ไม่เสียหลาย ช่วงฤดูร้อนนอกจากเราทุกคนจะต้องเจอกับอากาศที่แสนจะร้อนอบอ้าว จนทำให้เสียสุขภาพกายและสุขภาพจิตกันแบบขั้นสุดแล้ว ทุกคนยังต้องเผชิญหน้ากับโรคหน้าร้อนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะอากาศที่ร้อนจัด เป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียบางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคทางเดินอาหาร นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมในช่วงหน้าร้อน ผู้คนถึงพากันท้องร่วงและท้องเสียกันบ่อย ๆ นั่นเอง ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือทุกคนให้ห่างไกลจากโรคหน้าร้อนแสนอันตราย วันนี้เราจึงมาบอกต่อข้อมูลโรคหน้าร้อนที่ต้องระวัง เพื่อให้ทุกคนได้เตรียมรับมือกันตั้งแต่เนิ่น ๆ และเพิ่มความระมัดระวังให้กับการใช้ชีวิตมากกว่าเดิม หากพร้อมแล้วอย่ารอช้ารีบไปทำความเข้าใจกับโรคต่าง ๆ ได้เลย โรคร้ายหน้าร้อนที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง โรคพิษสุนัขบ้า โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ (Rabies) เป็นโรคยอดฮิตในช่วงหน้าร้อน ส่วนใหญ่มักจะเกิดมาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว วัว ลิง ค้างคาว เป็นต้น ที่เป็นพาหะในการนำเชื้อโรคจากสัตว์มาสู่คนได้ โดยสามารถติดต่อได้ทั้งจากการโดนกัด โดยข่วน เลียบริเวณที่เป็นแผล การบริโภค รวมไปถึงน้ำลายจากสัตว์เข้าตา ปาก และจมูก ซึ่งหากถูกกัดจะต้องล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง จากนั้นต้องเข้าพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกัน โรคนี้เป็นโรคอันตรายที่ยังไม่มียาหรือวัคซีนสำหรับการรักษา จึงทำให้มีผู้ป่วยที่เสียชีวิตภายใน 2 – 7 วันหลังแสดงอาการได้ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute… Continue reading โรคหน้าร้อนที่ต้องระวัง กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วอาจเสียใจ
แกะสลักผัก – ผลไม้ ภูมิปัญญาไทยอาศัยความคิดและความใจเย็น
การแกะสลักบนจานอาหาร มีมาแต่ตั้งสมัยอยุธยา “ถ้าสอนอย่างต่อเนื่อง งานแกะสลักผักผลไม้ จะไม่ได้อยู่แค่จัดการเรียนการสอนอย่างเดียว มันจะเข้าไปสู่งานอนุรักษ์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย ทำยังไงให้ยั่งยืน ทำให้เด็กเห็นคุณค่าของมรดกทางภูมิปัญญาไทย ทำยังไงให้ไปต่อยอดที่เข้าไปสู่วิถีการดำเนินชีวิตได้” ข้างต้น คือคำพูดของครูผู้มีใจรักในงานแกะสลัก นางสาวนภากูล ธาตุ โรงเรียนบ้านช้างคับ อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ที่ได้สร้างชื่อเสียงและส่งนักเรียนเข้าแข่งขันแกะสลักจนได้รับรางวัลชนะเลิศมากมาย (อ้างอิงจาก มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี) ดังข้อความก็บอกให้เห็นเลยว่าการแกะสลักไม่ได้เป็นเพียงแค่การสอนเท่านั้น แต่มันเป็นแนวทางในการอนุรักษ์ความเป็นไทยได้ด้วย แกะสลักเพื่ออะไร เมื่อสุดท้ายก็ต้องรับประทานอยู่ดี การแกะสลัก เป็นงานฝีมือที่มีรูปแบบเฉพาะที่ต้องมาพร้อมกับความตั้งใจ ความประณีต ความงดงาม ทั้งยังเป็นศิลปะที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน จนทำให้ทุกวันนี้การแกะสลักถูกประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเลยล่ะค่ะ ซึ่งเรื่องราวของการแกะสลักในประเทศไทย ดำเนินเรื่องมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยาเรื่อยมา จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังคงมีศิลปะแขนงนี้ปรากฏให้เห็นอยู่ ที่สำคัญการแกะสลักไม่ได้เพียงแต่จะให้ความสวยงามเท่านั้น แต่การแกะสลักผัก ผลไม้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของคนทำ ทั้งยังช่วยสร้างคุณค่าด้านจิตใจ ฝึกฝนสมาธิ และช่วยให้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ควรค่าแก่การอุดหนุนอีกด้วย หลายคนคงสังเกตได้ง่าย ๆ หากมีผลไม้ 2 อย่างวางอยู่ใกล้กัน ราคาใกล้เคียงกัน ฝั่งหนึ่งเป็นผลไม้ธรรมดาที่อยู่ในถุงพลาสติก แต่อีกฝั่งหนึ่งเป็นผลไม้ที่ผ่านการแกะสลัก ถูกจัดอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม น่ารับประทาน หากเลือกได้คุณก็คงต้องการเลือกผลไม้ประเภทที่ 2 ใช่ไหมล่ะคะ? ดังนั้นแล้ว… Continue reading แกะสลักผัก – ผลไม้ ภูมิปัญญาไทยอาศัยความคิดและความใจเย็น
เครื่องเบญจรงค์ งานหัตถศิลป์ล้ำค่าเอกลักษณ์สะท้อนความเป็นไทย
‘เครื่องเบญจรงค์’ งานฝีมือสุดล้ำค่าผ่านความคิดและฝีมือคนไทย หากจะพูดถึงงานฝีมือที่ล้ำค่าและเป็นที่ภาคภูมิใจของคนไทย ‘เครื่องเบญจรงค์’ จะต้องเป็นสิ่งแรก ๆ ที่หลายคนกำลังนึกถึงอย่างแน่นอน ซึ่งเครื่องเบญจรงค์แต่ละชิ้นที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมานั้น เกิดขึ้นได้ด้วยความตั้งใจและด้วยฝีมือเชิงช่างด้านหัตถกรรมเบญจรงค์โดยเฉพาะ ที่สั่งสมกันมาจากรุ่นสู่รุ่นและยากที่จะเลียนแบบฝีมือกันได้ แต่เดิมเครื่องแบญจรงค์จะถูกนำไปใช้กันในงานสำคัญต่าง ๆ อาทิ งานในราชวัง การต้อนรับผู้มาเยือน ชนชั้นสูง ฯลฯ แต่ในปัจจุบันคนไทยได้มีการผลิตเครื่องเบญจรงค์สมัยใหม่ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น คนทุกระดับสามารถใช้ได้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ลืมที่จะฝังความเป็นไทย รสนิยม และวิถีดั้งเดิมลงไป เพื่อให้เครื่องเบญจรงค์ยังคงความสวยงามที่สะท้อนความเป็นไทยได้ดีดังเดิม เรื่องเล่า…เครื่องเบญจรงค์ของคนไทย สำหรับในไทยเครื่องเบญจรงค์เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใดยังไม่มีหลักฐานที่ปรากฏแน่ชัดนัก แต่จากหลักฐานอื่น ๆ บวกกับการสันนิษฐาน ขุดพบครั้งแรกที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีลักษณะของลวดลาย สี คล้าย ๆ กับเครื่องถ้วยจีน (บางชิ้นมีเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงรัชกาล) เชื่อกันว่าในสมัยอยุธยาได้มีการสั่งทำเครื่องเบญจรงค์จากประเทศจีน โดยมีช่างไทยเป็นผู้ออกแบบลวดลายและเดินทางไปควบคุมการผลิตเพื่อให้ได้รูปทรงตามความนิยมของคนไทย ในส่วนของภาชนะที่ได้มีการสั่งทำนั้นก็จะมีทั้ง จาน ชาม โถ ช้อน กระโถน ชุดถ้วยชา กาน้ำ ฯลฯ แต่เดิมจะใช้สีในการทำทั้งหมด 3 สี แต่ช่วงหลังมาก็ได้มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเป็น 5 สี ได้แก่ แดง,… Continue reading เครื่องเบญจรงค์ งานหัตถศิลป์ล้ำค่าเอกลักษณ์สะท้อนความเป็นไทย
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ศึกครั้งใหญ่ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
ประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ถูกจารึกไว้ที่ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ “สุพรรณบุรี เมืองยุทธหัตถี วรรณคดีขึ้นชื่อ เลื่องลือพระเครื่อง รุ่งเรืองเกษตรกรรม สูงล้ำประวัติศาสตร์ แหล่งปราชญ์ศิลปิน ภาษาถิ่นชวนฟัง” สวัสดีค่ะทุกคน..เปิดหัวมาด้วยคำขวัญแบบนี้คงเดาไม่ยากเลยนะคะว่านี่เป็นคำขวัญของจังหวัดอะไร ใช่แล้วล่ะค่ะ ที่คุณได้อ่านไปในตอนต้นคือคำขวัญของจังหวัดสุพรรณบุรี เมืองงามที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งที่นี่นอกจากจะมีอาหารการกิน ภาษาถิ่น และสถานที่เที่ยวให้คุณได้ไปสัมผัสมากมายแล้ว สุพรรณบุรี ยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย ว่าเคยเป็นดินแดนที่พระนเรศวรเคยสู้รบกับข้าศึก และคว้าชัยชนะให้กับปวงชนชาวไทย ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหนึ่งสถานที่ที่คนสุพรรณบุรีเคารพนับถือ นั่นคือ ‘พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์’ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ สถานที่สวยงามและทรงคุณค่า เราขอพาคุณย้อนไปในปี พ.ศ.2135 ในตอนนั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงสร้างองค์เจดีย์ยุทธหัตถีเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามยุทธหัตถี ระหว่างพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยากับพระมหาอุปราชาแห่งพม่า เมื่อวันเวลาผ่านไปจนกระทั่งปี พ.ศ.2456 เจดีย์แห่งนี้ก็ถูกพบอีกครั้ง โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และเชื่อว่าที่นี่น่าจะเป็นซากเจดีย์เก่ายุทธหัตถี ที่เหลือเพียงซากฐานสี่เหลี่ยมเท่านั้น ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 จึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมศิลปากรทำการบูรณะและเลือกเอาเจดีย์ยุทธหัตถีจังหวัดตาก (เจดีย์ที่สร้างเพื่อรำลึกถึงพ่อขุนรามคำแหงครั้งชนช้างชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด) มาเป็นแบบอย่าง ต่อมาก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อจอมพลป.พิบูลสงคราม (เป็นนายกรัฐมนตรี) ได้สร้างแบบเจดีย์ให้เป็นทรงลังกาที่ถอดรูปแบบมาจากวัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่สันนิษฐานว่า เจดีย์ของที่นั่นสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะด้วยเช่นกัน ท้ายที่สุดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น เมื่อในปี… Continue reading ย้อนรอยประวัติศาสตร์ศึกครั้งใหญ่ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
ถ้วยก๋าไก่ไม่ไก่กา สัญลักษณ์ของชาวลำปางที่ช่วยสร้างรายได้
ถ้วยตราไก่ความภาคภูมิใจของชาวลำปาง จังหวัดลำปางถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดทางภาคเหนือที่เดิมทีเคยเป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรล้านนามาก่อน ซึ่งแน่นอนเลยว่าประวัติศาสตร์ของจังหวัดนี้ไม่ธรรมดา อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่เป็นที่รวมตัวของคนหลากหลายชาติพันธุ์ เมื่อมีความเป็นอยู่ที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้ที่นี่เต็มไปสิ่งล้ำค่ามากมายที่สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับจังหวัดได้เป็นอย่างดี ‘ถ้วยก๋าไก่’ หรือที่ใคร ๆ ก็รู้จักกันในชื่อถ้วยตราไก่ เป็นสัญลักษณ์เด่นของจังหวัด ซึ่งหากใครที่เคยเดินทางไปยังจังหวัดลำปาง ก็จะได้เห็นกับอนุสาวรีย์ชามตราไก่ขนาดใหญ่ตั้งต้อนรับอยู่ที่เกาะกลางถนน เป็นสัญญาณบอกแบบนัย ๆ ว่าขณะนี้คุณได้ก้าวสู่จังหวัดลำปางอย่างเต็มตัวแล้วนั่นเอง ถ้วยตราไก่ กับ Story การเดินทางที่ยาวนาน นอกจากรถม้าลำปางพร้อมด้วยคนสวมหมวกคาวบอยที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนี้แล้ว ถ้วยตราไก่ หรือถ้วยก๋าไก่นี่แหละค่ะ ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของจังหวัดนี้ เป็นไฮไลท์เด่นขนาดไหนก็ดูได้จากตัวจังหวัด ที่ไม่ว่าคุณจะหันซ้ายหรือหันขวา คุณก็มักจะพบกับรูปถ้วยตราไก่ปรากฏอยู่เต็มไปหมด ทั้งในร้านอาหาร ร้านค้า สถานที่ท่องเที่ยว หรือแม้แต่ตรงจุดให้บริการรถโดยสารก็ยังมีเลยล่ะ ซึ่ง Story ของถ้วยตราไก่ก็ไม่เกิดขึ้นมาแบบส่ง ๆ แต่มันเกิดขึ้นมาจากความตั้งใจ โดยมีจุดเริ่มต้นแบบจริงจังในช่วงปี พ.ศ.2503 มีบ่อเกิดความคิดมาจากชาวจีน 2 คน คือ นายซิวกิม แซ่กวอก และนายซิมหยู แซ่ฉิน ที่แต่เดิมทั้งสองคนเคยทำงานในโรงงานถ้วยชามมาก่อน เมื่อเดินทางมาอยู่ในไทยก็เริ่มลงหลักปักฐานไปทำงานที่โรงงานเครื่องปั้นดินเผาในเชียงใหม่ โดยโรงงานนี้ก็จะผลิตเครื่องปั้นดินเผาทั่ว ๆ ไป คือโอ่งและกระถางต้นไม้ แต่เจ้าของโรงงานต้องการที่จะผลิตถ้วยแบบจีน (ตอนนั้นจีนปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์ ทำให้สินค้าเข้าไทยน้อยและมีราคาแพงมาก)… Continue reading ถ้วยก๋าไก่ไม่ไก่กา สัญลักษณ์ของชาวลำปางที่ช่วยสร้างรายได้
ทำไมต่างชาติต้องแห่เหมา ‘ผ้าไหมไทย’ ทุกครั้งที่มาเยือน
ผ้าไหมไทย สินค้าขึ้นชื่อที่คนในประเทศภูมิใจ เมืองไทยมีดีมากมาย เพราะไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาหารการกิน วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ หรือสถานที่ท่องเที่ยว ก็มักทำให้ชาวต่างชาติที่ได้มาเยือนต่างติดอกติดใจจนอยากมาซ้ำอีกหลาย ๆ หน ซึ่งถึงแม้ว่าในตอนนี้ประเทศไทยของเราจะยังคงต้องพบกับวิกฤตโควิด-19 อยู่ แต่เชื่อได้เลยว่าอีกไม่นาน หากอะไร ๆ ดีขึ้น การท่องเที่ยวไทยจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ย้อนไปก่อนหน้านี้ในช่วงที่ประเทศไทยฮ็อตมากสำหรับต่างชาติ ในตอนนั้นนอกจากต่างชาติจะเหมาอาหารไทยกลับไปเยอะแยะแล้ว สินค้าไทยหรือของฝากนี่แหละ ที่ชาวต่างชาติต่างเหมากลับบ้านกันแบบจุก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ผ้าไหมไทย’ ที่คนไทยที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ยังหลงใหลในความสวยงาม และคงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมต่างชาติถึงเหมาผ้าไหมไทยกลับบ้านด้วยเช่นกัน ผ้าไหมไทย กับความตั้งใจของคนไทยในอดีต เรื่องราวของผ้าไหมมีหลักฐานที่ยาวนานมากกว่า 4,700 กว่าปีก่อน พบครั้งแรกที่ประเทศจีนที่ถูกกล่าวอยู่ในหนังสือจีนโบราณชื่อว่า ‘ไคเภ็ก’ ได้มีการพูดถึงราชวงศ์จีนว่าพระนางหนึ่งเป็นผู้ริเริ่มการทอผ้าจากเส้นใยไหม ในส่วนของประเทศไทยนั้นมีการพบหลักฐานที่เกี่ยวข้องมีความเก่าแก่ที่สุดประมาณ 3,000 กว่าปี พบครั้งแรกเป็นเศษผ้าไหมตรงบริเวณวัฒนธรรมบ้านเชียง บ้านนาดี อำเภอหนองหาญ จังหวัดอุดรธานี (มีพื้นที่อื่น ๆ ในภาคอีสานด้วย) จากการสันนิษฐานคาดว่า มีการเลี้ยงตัวไหมและนำมาทอเป็นผ้าไหม เพื่อใช้ในการทำเครื่องนุ่งห่ม หรือใช้พิธีสำคัญต่าง ๆ ในส่วนของภาคอื่น ๆ ก็มีการกล่าวถึงการถักทอผ้าไหมในพงศาวดารด้วยเช่นกัน นับแต่นั้นมาผ้าไหมไทยก็กลายเป็นที่รู้จักของคนทั้งในประเทศและต่างประเทศ… Continue reading ทำไมต่างชาติต้องแห่เหมา ‘ผ้าไหมไทย’ ทุกครั้งที่มาเยือน
ผักตบชวาจากพืชไร้ค่า สู่รายได้หลักที่ยั่งยืนของคนไทย
ผักตบชวากลายมาเป็นรายได้ของคนไทยได้อย่างไร คนไทยเป็นคนที่มีฝีมือในเรื่องต่าง ๆ ไม่แพ้คนชาติใดในโลก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำอาหาร การร่ายรำ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ กระทั่งการสร้างรายได้ หากคนไทยมีความตั้งใจและความมุ่งมั่น ก็มักทำออกมาให้กลายเป็นความสำเร็จสูงสุดได้เสมอ อย่างพืชชนิดหนึ่งที่มองดูเผิน ๆ อาจสร้างความรำคานสายตา เพราะมันมักลอยอยู่เหนือน้ำตามลำคลอง อีกทั้งหากไม่มีการกำจัดหรือตักออก ก็มักส่งกลิ่นที่เหม็นเน่า และเป็นที่กักกันของขยะในแม่น้ำได้อีก ซึ่งพืชที่เรากำลังพูดถึงนั่นคือ ‘ผักตบชวา’ แต่คนไทยก็พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสอยู่เสมอ เพราะปัจจุบันผักตบชวา ได้กลายมาเป็นไอเทมสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนได้อย่างยอดเยี่ยมเลยล่ะ ผักตบชวาอดีตสร้างปัญหา ปัจจุบันสร้างรายได้ได้อย่างไร สำหรับผักตบชวาจะมีชื่อเรียกอื่น ๆ ตามจังหวัดด้วยนะ อย่างจังหวัดสุพรรณบุรีจะเรียกมันว่า ผักป่อง จังหวัดอ่างทองจะเรียกกันว่าผักปอด ส่วนจังหวัดนครราชสีมาจะเรียกว่าผักปง แต่เอาเป็นว่าเรียกกันแบบกลาง ๆ ว่าผักตบชวาน่าจะเข้าใจเหมือนกันมากกว่า ซึ่งผักตบชวาถูกจัดให้เป็นวัชพืชอันตรายอันดับ 8 ของโลก แต่เดิมมันถูกนำเข้ามาเพื่อใช้ตกแต่งแม่น้ำลำคลองให้สวยงามเท่านั้น แต่ทว่าด้วยความที่มันเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ไว จึงทำให้มันมีปริมาณที่เยอะจนเกินไป ขยายไปทั่วทุกอาณาเขตอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญในอดีตมันยังถือว่าเป็นศัตรูร้ายของคนโบราณที่ต้องใช้แม่น้ำในการสัญจรไปมาอีกด้วย (เมื่อก่อนใครมีผักตบในครอบครองถือว่าผิดกฎหมายด้วยนะ) นอกจากนี้ผักตบชวายังทำลายระบบนิเวศน์ใต้น้ำ แล้วก็ยังเป็นที่หลบซ่อนของสัตว์มีพิษต่าง ๆ อีกด้วยนะ แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงความทรงใจในอดีตเท่านั้น เพราะปัจจุบันชุมชนต่าง ๆ ในประเทศไทย ได้เริ่มมีการนำผักตบชวามาแปรรูป เพื่อส่งต่อเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ… Continue reading ผักตบชวาจากพืชไร้ค่า สู่รายได้หลักที่ยั่งยืนของคนไทย